Last updated: 27 มิ.ย. 2566 | 229 จำนวนผู้เข้าชม |
หากพูดถึงการบูรณะฟันทั้งปาก หลายคนฟังแล้วอาจดูน่ากลัวเป็นเรื่องใหญ่ เพราะเป็นการรักษาฟันทั้งหมด แต่หากเกิดปัญหาใหญ่และไม่รักษาอย่างครอบคลุม อาจจะนำไปสู่ปัญหาสุขภาพอื่นๆ ที่ร้ายแรงตามมาหากไม่ได้รับการรักษา
ทันตแพทย์หญิงสุชาดา ก้องเกียรติกมล ผู้ช่วยผู้อำนวยการคลินิกทันตกรรม บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก (BDMS Wellness Clinic) กล่าวว่า การบูรณะฟันทั้งปากคือกระบวนการบูรณะฟันทั้งหมดทุกซี่ในช่องปาก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ฟันมีสภาพสมบูรณ์สามารถบดเคี้ยวได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงส่งเสริมสร้างบุคลิกภาพด้วยการมีรอยยิ้มที่สวยงามมากยิ่งขึ้น
สำหรับคำถามที่ว่า เมื่อไรถึงจำเป็นจะต้องบูรณะฟันทั้งปาก โดยผู้ที่ควรบูรณะฟันทั้งปาก ไม่เกี่ยวว่าจะต้องอายุเท่าไหร่หรือว่าเพศอะไร เนื่องจากส่วนใหญ่เกิดขึ้นจากพฤติกรรมการรับประทานอาหารและการดูแลรักษาฟันที่ดีเป็นหลัก โดยเฉพาะผู้ที่มีฟันผุลุกลามหลายซี่ สูญเสียฟัน ฟันบิ่น ฟันแตก ฟันหักหลายซี่ มีปัญหาขากรรไกร คนที่นอนกัดฟันจนฟันสึกโดยไม่รู้ตัว มีปัญหาเหล่านี้สะสมมาเป็นเวลานาน ผู้ป่วยที่มีความผิดปกติทางโครงสร้างของฟัน หรือผู้ที่เป็นโรคกรดไหลย้อน รวมไปถึงการรับประทานอาหารที่มีรสจัด ที่มีกรดกัดกร่อนชั้นเคลือบฟัน ปัจจัยต่างๆเหล่านี้คนทั่วไปอาจจะมองเป็นปัญหาเพียงเล็กน้อย และมาหาทันตแพทย์ในตอนที่ปัญหานั้นเริ่มลุกลาม ซึ่งมีโอกาสที่จะสูญเสียฟันหรือโรคร้ายแรงเกิดขึ้นได้ ขณะที่คนไข้ที่มีปัญหาฟันสึกสะสม อาจจะไม่ได้มีแค่อาการปวดฟัน แต่จะมีอาการปวดไปถึงขากรรไกรและกล้ามเนื้อ ซึ่งบางทีลามไปถึงอาการปวดหัวและคอ บ่า ไหล่ได้ จนทำการรักษาผิดจุด บางรายไปทำการรักษากับแพทย์กายภาพบำบัดและหาต้นตอของสาเหตุไม่เจอ เนื่องจากไม่ได้แก้ที่ต้นเหตุของปัญหา
ขั้นตอนบูรณะฟันทั้งปาก จะเริ่มต้นจากการที่ทันตแพทย์จะตรวจวินิจฉัย ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด และทำการ ออกแบบการรักษาเฉพาะบุคคล ด้วยความชำนาญของทันตแพทย์และเทคโนโลยีที่ทันสมัยในการรักษา อาทิ เอกซเรย์ 3 มิติ (Cone Beam CT), ใช้ Software ในการออกแบบรอยยิ้ม, การสแกนภายในช่องปากด้วย Intraoral Scanner เป็นต้น
สำหรับระยะเวลาในการรักษาขึ้นอยู่กับปัญหาสุขภาพฟันและช่องปากของผู้ป่วยซึ่งแต่ละบุคคลจะมีความแตกต่างกันไป โดยบางรายใช้ระยะเวลา 6-12 เดือน เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความเกี่ยวข้องกับระบบทางเดินอาหาร ในกลุ่มคนไข้ที่เป็นกรดไหลย้อนจะพบว่าในช่องปากจะมีฟันที่สึกมากๆ เพราะกรดจากกระเพาะไหลย้อนเข้าไปในช่องปากและกัดกร่อนฟัน บางรายเกิดจากกรณีเกิดจากความเป็นกรดเป็นด่างของน้ำลายที่มีความเสี่ยงให้เกิดฟันผุ หรือ เกิดจากโรคปริทันต์ อาทิ เหงือก เอ็นยึดปริทันต์ เคลือบรากฟัน และกระดูกเบ้าฟัน ซึ่ง จะมีความสัมพันธ์กับจำนวนหินปูนที่มีอยู่ในช่องปาก หากมีหินปูนจำนวนมากเชื้อแบคทีเรียก็จะไปอยู่ที่บริเวณนั้นและเข้าไปอยู่ในบริเวณเหงือก ทำให้เหงือกกร่อนกระดูกละลาย ฟันโยก และท้ายที่สุดอาจทำให้สูญเสียฟันซี่นั้นไป หากเป็นกรณีที่ไม่ได้มีความซับซ้อนในการรักษาก็จะใช้ระยะเวลาน้อยกว่า 6 เดือน ซึ่งควรรักษากับทันตแพทย์ที่มีความชำนาญเฉพาะทางเพื่อผลลัพธ์ที่น่าพอใจและความสำเร็จในการรักษา
การรักษาแบบบูรณะฟันทั้งปากช่วยให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น เปรียบเสมือนการยกเครื่องใหม่ทั้งหมด ทั้งในด้านการใช้งานของฟันรวมไปถึงข้อต่อขากรรไกรและกล้ามเนื้อ ให้มีพัฒนาของการบดเคี้ยวให้มีประสิทธิภาพ ทานอาหารได้อร่อยขึ้น เมื่อได้รับการรักษาอย่างถูกต้องเหมาะสมแล้ว การติดตามผลสำหรับกรณีการบูรณะฟันทั้งปากยังคงเป็นสิ่งที่จำเป็น อย่างกรณีคนไข้ที่ทำครอบฟันทั่วไปยังคงต้องพบทันตแพทย์ที่มีความอย่างสม่ำเสมอเป็นประจำทุกๆ 6 เดือนเพื่อตรวจดูสุขภาพช่องปากและฟัน ส่วนผู้ที่มีการใส่รากเทียมไปหลายๆซี่ หรือมีภาวะโรคปริทันต์อักเสบ หรือ เหงือกอักเสบ เรื้อรัง ควรพบทันตแพทย์บ่อยครั้งทุก 3 เดือนเพื่อรักษาการบูรณะให้มีความทนทานในการใช้งานให้ดีที่สุด
บีดีเอ็มเอส เวลเนส คลินิก เน้นการตรวจและวางแผนรักษาเฉพาะแบบบุคคล โดยทีมทันตแพทย์ที่มีความชำนาญการพร้อมด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ที่ตอบโจทย์ทุกปัญหาสุขภาพช่องปากและฟัน เพราะแต่ละคนมีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน บางคนชอบกินของหวาน บางคนชอบกินของเปรี้ยวทั้งหมดนี้ล้วนมีผลต่อฟันทั้งสิ้น รวมถึงพร้อมให้บูรณะฟันทั้งช่องปากเพื่อให้ผู้รับบริการมีรอยยิ้มที่งดงามด้วยสุขภาพที่ดีซึ่งจะเพิ่มความมั่นใจในตนเองและยกระดับคุณภาพชีวิตโดยรวมเพราะสุขอนามัยช่องปากที่ดีจะช่วยป้องกันฟันผุและโรคในช่องปากที่อาจทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนอื่นๆได้
21 ต.ค. 2566
27 มิ.ย. 2566