ร้านยากรุงเทพ จัดวิ่งการกุศล “วิ่งให้โอกาส 2024” มอบรายได้ให้ "มูลนิธิสร้างรอยยิ้ม" เพื่อรักษาเด็กปากแหว่งเพดานโหว่

     ร้านยากรุงเทพ จัดกิจกรรมการกุศล “วิ่งให้โอกาส 2024” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนดูแลสุขภาพด้วยการออกกำลังกาย ซึ่งรายได้จากค่าสมัครทั้งหมดไม่หักค่าใช้จ่ายมอบให้กับ "มูลนิธิสร้างรอยยิ้ม” เพื่อนำเงินไปใช้ในการรักษาเด็กที่มีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ ให้มีโอกาสได้มีรอยยิ้มที่สดใส ได้รับการตอบรับจากนักวิ่ง 2,000 คน มียอดบริจาคทั้งสิ้น 1 ล้านบาท โดยนายชูวิทย์ วัยศิริโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการร้านยากรุงเทพ ได้มอบให้กับ “ทพญ. ยุพเรศ นิมกาญจน์” ประธานกรรมการ มูลนิธิสร้างรอยยิ้ม

     งานจัดขึ้น ณ บางกอกเวิลด์ สวนสยาม ในวันที่ 4 ก.พ. 67 ซึ่งมีการจัดวิ่งทั้งหมด 3 ระยะคือ 4, 14 และ 24 กิโลเมตร โดยมีผู้เข้าร่วมวิ่งจำนวนมากจากหลากหลายวงการ ไฮไลท์ของงานครั้งนี้คือความร่วมมือร่วมแรงร่วมใจของกลุ่มของบุคลากรทางการแพทย์ ไม่ว่าจะเป็น หมอ พยาบาล เภสัชกร ที่มีจิตกุศล พร้อมใจกันใส่เสื้อกาวน์เข้าจุดสตาร์ทร่วมวิ่งครั้งนี้ นอกจากนี้ยังมีนายกและกรรมการสภาเภสัชกรรม รวมไปถึงคณาจารย์คณะเภสัชศาสตร์จากมหาวิทยาลัยต่างๆ นอกจากนี้ยังมีคนดังจากวงการบันเทิง อาทิ “แอน-สิเรียม ภักดีดำรงฤทธิ์” และดีเจต๊อป-ณพล พรมสุวรรณ รวมทั้ง Influencer คนดังมากมายมาร่วมงานการกุศลครั้งนี้ อีกทั้งยังมีมินิคอนเสิร์ตจาก “แพท พาวเวอร์แพท” ที่มีเพลงพิเศษ Cover เพลงด้วยรักและเป็นห่วง ที่บอย โกสิยพงษ์ เป็นผู้แต่งให้กับร้านยากรุงเทพมาร้องให้แก่ผู้มาร่วมงานครั้งนี้ด้วย

     โดย นายชูวิทย์ วัยศิริโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการร้านยากรุงเทพ กล่าวว่า “งานวิ่งให้โอกาส ปีนี้เป็นปีที่ 2 แล้ว สืบเนื่องมาจากที่ปีที่แล้วที่เราทำกันขึ้นมาด้วยความตั้งใจจริงและได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากหลายภาคส่วน หลายหน่วยงาน รวมถึงได้รับความสนใจจากประชาชน ซึ่งถือได้ว่าประสบผลสำเร็จ จึงมีความคิดที่อยากจะทำต่อเนื่องไปเรื่อยๆ งานในปีนี้จึงได้เกิดขึ้นมาอีกครั้งตามเจตนารมณ์เดิม โดยปีนี้เราเลือกที่จะนำเงินรายได้ไปมอบให้กับ "มูลนิธิสร้างรอยยิ้ม" เพื่อนำไปใช้ในการรักษาเด็กที่มีภาวะปากแหว่งเพดานโหว่ ที่เราเลือกให้ความสำคัญกับน้องๆ กลุ่มนี้เพราะเยาวชนเป็นกำลังสำคัญของเราในอนาคต การทำให้เด็กๆ ได้มีรอยยิ้มเหมือนคนอื่นเป็นการช่วยรักษาแผลทางใจ ทำให้ชีวิตมีคุณภาพขึ้นได้ ดังที่ท่านอานันท์ ปันยารชุน ได้กล่าวในงานของมูลนิธิ ซึ่งพอเราประกาศรับสมัครไปปรากฏว่าได้รับความสนใจเกินคาดไปมากๆ มีผู้สมัครและเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 2,000 คน รวมทั้งพันธมิตรของเราจากหลายหน่วยงาน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากหลายภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นกลุ่มวิชาชีพทางการแพทย์ โดยเฉพาะสภาเภสัชกรรม คณาจารย์จากคณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยต่างๆ รวมถึงสมาคมร้านขายยา และผู้สนับสนุนที่มาร่วมงานในครั้งนี้ให้ความร่วมมือ และความช่วยเหลือเป็นอย่างดี ซึ่งต้องขอขอบพระคุณมา ณ โอกาสนี้ด้วย”