"คูโบต้า" ปักหมุดหนุนภาคการเกษตรให้เป็น NET ZERO ในทุกมิติ

Last updated: 26 มิ.ย. 2566  |  197 จำนวนผู้เข้าชม  | 

"คูโบต้า" ปักหมุดหนุนภาคการเกษตรให้เป็น NET ZERO ในทุกมิติ

     สยามคูโบต้า เผยผลประกอบการปี 2565 ปิดงบยอดขายที่ 63,000 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้ายอดขายปีนี้ 67,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมา 7% เดินหน้าก้าวสู่ปีที่ 45 ด้วยวิสัยทัศน์ที่มุ่งพัฒนาให้นวัตกรรมเกษตรเป็นมากกว่าเครื่องจักรกลการเกษตร โดยทุกกระบวนการของธุรกิจเกิดขึ้นบนแนวคิดที่ต้องการเป็นผู้นำนวัตกรรมที่มุ่งการสร้าง White Agri-World โลกเกษตรสีขาว หรือ การพัฒนานวัตกรรมเกษตรด้วยความรับผิดชอบ เร่งรณรงค์ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคเกษตรสุทธิเป็นศูนย์ (NET ZERO Emission)

     นายจูนจิ โอตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทสยามคูโบต้าคอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า ในปี 2565 ที่ผ่านมา สยามคูโบต้ามีผลการดำเนินงานตรงตามเป้าหมายที่คาดไว้ ซึ่งผลประกอบการในปี 2565 มียอดขายอยู่ที่ 63,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนในประเทศ 60 : ต่างประเทศ 40 โดยปัจจัยบวกจากภายนอกที่ช่วยส่งเสริมการเติบโตทางภาคเกษตร ได้แก่ ปริมาณน้ำฝนดี ราคาสินค้าเกษตรปรับตัวสูงขึ้น และนโยบายจากภาครัฐที่มุ่งส่งเสริมการทำเกษตรสมัยใหม่เพื่อลดต้นทุนและเพิ่มผลผลิต รวมทั้งการออกสินค้ารุ่นใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการทั้งทางเทคโนโลยีและเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าและสังคม สำหรับในปี 2566 นี้ สยามคูโบต้าได้ตั้งเป้าหมายยอดขายรวมไว้ที่ 67,000 ล้านบาท ซึ่งจะเติบโตเพิ่มขึ้น 7%


     ทั้งนี้ จากปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากภาวะโลกร้อนในขณะนี้เริ่มส่งผลกระทบรุนแรง ต่อผลผลิตอาหารทั่วโลก และเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในความพยายามร่วมแก้ไขปัญหา สยามคูโบต้าตระหนักถึงบทบาทในการสร้างความเชื่อมั่น และไว้วางใจจากลูกค้าในการเป็นองค์กรที่ช่วยเหลือสังคม โดยจะดำเนินตามนโยบาย Global Major Brand (GMB) คูโบต้าคอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในภาคการเกษตรสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ทั้งนี้ในการดำเนินธุรกิจก้าวสู่ปีที่ 45 เราจะยังคงตั้งมั่นให้การสนับสนุนภาคเกษตรของไทย ในการพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทัดเทียมกับนานาประเทศในทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า บริษัทคู่ค้าทางธุรกิจ ตลอดจนพนักงาน พร้อมเร่งสนับสนุนภาคเกษตรไทยให้เป็น Net Zero ในทุกมิติ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ

     นางวราภรณ์ โอสถาพันธุ์ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่อาวุโส เผยถึงภาพรวมสถานการณ์ภาคการเกษตรของไทยในรอบปีที่ผ่านมาว่า สภาพอากาศที่เอื้ออำนวยส่งผลให้เกษตรกรขยายพื้นที่เพาะปลูกและทำการผลิตมากขึ้น อีกทั้งราคาผลผลิตอยู่ในเกณฑ์ดี จูงใจให้เกษตรกรสนใจซื้อเครื่องจักรฯ สำหรับเพาะปลูกและบำรุงดูแลรักษามากขึ้น รวมถึงสถานการณ์ COVID-19 ที่ผ่อนคลาย ส่งผลให้เศรษฐกิจทั่วโลกเริ่มฟื้นตัว นอกจากนี้ นโยบายของภาครัฐมีการส่งเสริมยกระดับเกษตรกรไทยสนับสนุน Smart Farming ที่นำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาบริหารจัดการ จึงทำให้ภาพรวมของตลาดเครื่องจักรกลการเกษตรของไทยเพิ่มขึ้น 11% และGDP ภาคการเกษตรมีการขยายตัว 2.5% ในขณะที่ภาพรวมตลาดเครื่องจักรกลการเกษตรในกัมพูชา และ สปป.ลาว ก็เติบโตเพิ่มขึ้น 8 % อันเป็นผลจากรัฐบาลส่งเสริมการผลิตพืชผลการเกษตรเพื่อส่งออกมากขึ้น



     สยามคูโบต้า จึงได้กำหนดแนวทางการดำเนินธุรกิจ ในปี 2566 ดังนี้ 1. มุ่งพัฒนาสินค้าให้ครอบคลุมทุกกลุ่มพืช 2. ขยายธุรกิจบริการด้านนวัตกรรมการเกษตรยุคใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า โดยร่วมมือกับ บริษัท เกษตรอินโน จำกัด และกลุ่ม Startup มหาวิทยาลัย ตลอดจนภาครัฐ และเอกชน 3. ขยายตลาดใหม่และพัฒนาศักยภาพผู้แทนจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศรองรับการเติบโตของตลาด 4. ร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อพัฒนาภาคการเกษตรให้แข็งแรงและยั่งยืน 5. มุ่งพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน ด้วยนโยบาย ESG และ Net Zero Emission

     ในส่วนของการพัฒนาองค์กรและสินค้าของสยามคูโบต้า เราให้ความสำคัญกับการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมายการทำเกษตรของโลกเกษตรใหม่ เน้นการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดเพื่อไปสู่โลกเกษตรสีขาว White Agri-World ภายใต้แนวคิด “ใช้น้อย ได้มาก เพื่อความยั่งยืน” ที่มุ่งเน้นการสร้างนวัตกรรมเกษตรอย่างรับผิดชอบผ่านส่วนผสมที่เป็นกุญแจสำคัญ ได้แก่ White Machinery นวัตกรรมเครื่องจักรกลการเกษตรสมัยใหม่ White Solutions นวัตกรรมวิธีการทำเกษตรรูปแบบใหม่ White Corporation องค์กรสีขาวที่มุ่งเน้นสู่ความยั่งยืน โดยให้ทุกคนสามารถมีส่วนร่วมกับโลกเกษตรเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตและโลกไปในทางที่ดีขึ้น ทั้งนี้ Key Driver ที่จะเป็นหัวใจสำคัญที่นำไปสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน คือการเป็นผู้นำด้าน NET ZERO Emission ในภาคการเกษตร โดยรณรงค์ให้มีการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งภายในองค์กรและภาคการเกษตรสุทธิเป็นศูนย์ ได้แก่ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การลดการปล่อยมลพิษในกระบวนการผลิต การจัดการน้ำและปุ๋ยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และพัฒนาโซลูชันเกษตรแม่นยำที่ลดการปล่อยคาร์บอน โดยร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อขยายผลสู่ระดับประเทศ
 
     สำหรับการพัฒนาโครงการด้านสังคม เพื่อยกระดับความเป็นอยู่ของชุมชน พัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้พึ่งพาตนเองได้ ภายใต้นโยบาย ESG สยามคูโบต้าได้ดำเนินการ โครงการชุมชนพลังเกษตรสร้างสุขสยามคูโบต้า ให้องค์ความรู้จากต้นน้ำถึงปลายน้ำ และช่วยเกษตรกรในการลงมือปฏิบัติจริงเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ในการเพิ่มรายได้ โครงการคูโบต้าร่วมมือ เกษตรร่วมใจ สนับสนุนให้เกษตรกรรายย่อยรวมกันใช้เครื่องจักรฯ เพื่อลดต้นทุนและสร้างรายได้ และโครงการชุมชนเกษตรเพาะสุขสยามคูโบต้า มุ่งแก้ปัญหาความยากจน ยกระดับรายได้ให้เกษตรกรรายครัวเรือน นอกจากนี้ยังมีแผนพัฒนาคูโบต้าฟาร์ม ในการนำเสนอโซลูชันที่ตอบโจทย์การทำเกษตรคาร์บอนต่ำ และเพิ่มพื้นที่สร้างประสบการณ์ใหม่อีก 2 โซน ได้แก่ โซน For Earth For Life และ โซนการจัดการหลังการเก็บเกี่ยว เพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้การทำเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ตามเป้าหมายการขับเคลื่อน Net Zero Emission ในภาคการเกษตรสุทธิเป็นศูนย์

     ด้านนายพิษณุ มิลินทานุช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้จัดการทั่วไป สายงานขาย การตลาดและบริการ เปิดเผยว่า “เทรนด์การเกษตรสมัยใหม่มีการใช้เครื่องจักรกลการเกษตรและเทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้การทำเกษตรมีประสิทธิภาพดีและสะดวกมากยิ่งขึ้น ทำให้สยามคูโบต้าเตรียมรุกตลาดภายใต้ 2 กลยุทธ์สำคัญ ได้แก่ 1. กลยุทธ์เน้นขยายตลาดใหม่ คือ กลุ่ม Non Farmer (เกษตรกรมือใหม่) เจาะกลุ่มผู้ที่กำลังเริ่มต้นสนใจการเกษตรได้ทดลองใช้งานเครื่องจักรฯ กลุ่มพืชมูลค่าสูง (High Value Crop) นำเสนอประสิทธิภาพในรูปแบบทำน้อยแต่ได้มาก รองรับการขยายตัวของกลุ่มพืชที่สูงถึง 16% โดยขยายตลาดแทรกเตอร์ต้นกำลังในการต่ออุปกรณ์เพื่อทำงานได้หลากหลาย กลุ่มเกษตรกรสมัยใหม่ (Smart Farmer) จับเทรนด์ผู้ที่สนใจนำนวัตกรรมมาใช้กับการทำเกษตรของตัวเองมากขึ้น ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 38% และ 2. กลยุทธ์สร้างความยั่งยืนให้กับชุมชนเกษตรกร ส่งเสริมให้เกิดเป็น Smart Farmer ที่เข้าถึงเครื่องจักรกลการเกษตรได้อย่างทั่วถึงทดแทนการใช้แรงงาน ภายใต้โครงการ “คูโบต้าร่วมมือ เกษตรร่วมใจ” ร่วมกับวิสาหกิจชุมชนไปแล้ว 168 กลุ่ม และเปิดโอกาสให้สมาชิกกลุ่มวิสาหกิจชุมชนมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการเกษตร และการบริหารจัดการเครื่องจักรฯ การนำไปรับจ้างเพื่อสร้างรายได้ให้กับชุมชน ผ่านกิจกรรมคูโบต้าเชื่อมเครือข่ายชุมชน ในภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นอกจากนี้ ในปีที่ผ่านมาเราได้เข้าไปส่งเสริมการพัฒนาสินค้าแปรรูปและช่องทางจัดจำหน่ายให้ชุมชนเกษตรต้นแบบจังหวัดเชียงราย และเตรียมขยายผลเพิ่มอีก 5 ชุมชนในปีนี้

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้