Last updated: 4 ส.ค. 2567 | 80 จำนวนผู้เข้าชม |
บิ๊กอีเว้นท์แห่งปี เพื่อชาววิศวกร งาน “International Engineering Expo 2024” หรือ “งานวิศวกรรมแห่งชาติ 2567” งานแสดงเทคโนโลยีสำหรับงานวิศวกรรม ที่ให้ความสำคัญในการขับเคลื่อนความยั่งยืน ภายใต้แนวคิด “Driving Sustainability Responsiveness" ขยายพื้นที่จัดแสดงเติบโตขึ้นกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ เชื่อมโยงโอกาสธุรกิจระหว่างผู้ซื้อภาคองค์กร กับผู้นำแบรนด์เทคโนโลยีชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศ พร้อมสัมมนาตอบรับกระแสเทรนด์วิศวกรรมโลกกว่า 72 หัวข้อ ตอบโจทย์โซลูชั่นงานวิศวกรรมทุกสาขา ระหว่างวันที่ 24 - 26 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ผู้เข้าชมงานทั้งในและต่างประเทศกว่า 30,000 คน จับคู่ทางธุรกิจกว่า 800 คู่เจรจา สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท
นายสมจิตร์ เปี่ยมเปรมสุข ประธานคณะกรรมการจัดงาน International Engineering Expo 2024 เผยถึงการดำเนินการจัดงานอย่างต่อเนื่อง นับเป็นเวทีประจำปีสำหรับชาววิศวกรทุกสาขาต้องมาเพื่ออัพเดทเทรนด์เทคโนโลยี เสริมองค์ความรู้ใหม่ๆ รองรับความก้าวหน้างานวิศวกรรมระดับโลก ในปีนี้วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) ได้จับมือกับบริษัท เอ็น.ซี.ซี. แมนเนจเม้นท์ แอนด์ ดิเวลลอปเม้นท์ จำกัด เพื่อยกระดับการจัดงานสู่เวทีระดับนานาชาติต่อยอดความแข็งแกร่งด้านสัมมนาวิชาการ ภายในงานจะมีสินค้าระดับนานาชาติมาร่วมจัดแสดง พร้อมด้วยสินค้าเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ สำหรับชาววิศวกร
งานสัมมนาวิชาการในปีนี้ มีความเข้มข้นมากขึ้นและตอบรับกระแสโลก ด้วยหัวข้อสัมมนามากถึง 72 หัวข้อ ครอบคลุมทุกสาขางานวิศวกรรม ภายใต้แนวคิด “การขับเคลื่อนประสิทธิภาพความยั่งยืนทางวิศวกรรม” อาทิ ด้านนวัตกรรม เรื่องของงานก่อสร้างอุโมงค์ผาเสด็จ โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ การติดตั้งทางไฟฟ้าสำหรับประเทศไทย สายไฟฟ้าใต้ดินในระบบส่งและระบบจำหน่าย วิศวกรรมหุ่นยนต์ เป็นต้น ด้านกฎหมาย จะพูดคุยถึงมาตรฐานความปลอดภัยเพื่อให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีวิศวกรรมสมัยใหม่ การอัพเดทกฎหมายและมาตรฐานใหม่ในการป้องกันอัคคีภัย เป็นต้น ด้านการสร้างมาตรฐาน การยกระดับวิชาชีพการตรวจสอบและงานวิศวกรรมเพื่อความปลอดภัย เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีหัวข้อแนวทางการก้าวสู่วิศวกรระดับวิชาชีพป้องกันอัคคีภัย การสัมมนาด้านพลังงานไฟฟ้าและนวัตกรรมจาก MEA ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมสัมมนานอกจากจะได้อัพเดตความรู้ใหม่ๆ ในแวดวงวิศวกรรมแล้ว ทุกหัวข้อสัมมนาจะเป็นตัวจุดประกายไอเดียและสร้างแรงบันดาลใจในการออกแบบวิศวกรรมที่คำนึงถึงความยั่งยืนด้วย
คุณสุรพล อุทินทุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กล่าวว่า งาน International Engineering Expo 2024 ที่เป็นงานวิศวกรรมแห่งชาติของประเทศไทย เป็นงานที่มีศักยภาพในการขยายให้เป็นงานระดับภูมิภาค ด้วยความก้าวหน้าที่วิศวกรรมในทุกด้านของประเทศไทย ซึ่งอาจถือได้ว่าเป็นศูนย์กลางวิศวกรรมของภูมิภาค ดังนั้นในการจัดงานครั้งนี้ นอกจากจะเป็นการบรูรณาการการส่งมอบองค์ความรู้ผ่านการสัมมนาในหัวข้อต่างๆ จากวิทยากรด้านวิศวกรรมชั้นนำของประเทศกว่า 200 ท่าน ใน 72 หัวข้อสัมมนาตลอดทั้ง 3 วันของการจัดงานแล้ว ในด้านการจัดงานแสดงสินค้า เราให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงโอกาสธุรกิจระหว่างผู้ซื้อภาคองค์กร กับผู้นำแบรนด์เทคโนโลยีชั้นนำทั้งไทยและต่างประเทศ
ส่วนของการจัดแสดงสินค้าปีนี้ มีจำนวนมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา 30% ด้วยเทคโนโลยี – นวัตกรรมกว่า 150 บริษัท แบรนด์นานาชาติ อาทิ ญี่ปุ่น จีน เกาหลี ไต้หวัน และเยอรมัน ไฮไลท์เทคโนโลยีที่น่าสนใจ อาทิ เหล็ก Recycle สำหรับโครงสร้างที่มีคุณภาพสูง ใช้กระบวนการผลิตแบบบ EAF ช่วยประหยัดพลังงานในกระบวนการหล่อ / Software ERP สำหรับผู้รับเหมาโครงการที่เป็น Project Base ให้สามารถดูข้อมูลได้แบบ Real time / เข็มเหล็ก กรีนส์ นวัตกรรมใหม่ที่ช่วยลดคาร์บอนในการก่อสร้าง / นวัตกรรมเครื่องผลิตนํ้ายาไฮเปอเคอรัส / Power Generator ใต้ดิน / งานระบบเเจ้งเตือนภัยฟ้าผ่าอัจฉริยะสำหรับผู้ทำงานในพื้นที่โล่งแจ้ง/ วัสดุ GFRP ที่ทนทานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์กว่าเหล็กธรรมดาถึง 6 เท่า / ซอฟต์แวร์การเพิ่มประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงในกระบวนการออกแบบและก่อสร้างอาคาร และ บริการด้านระบบจอดรถอัฉริยะสำหรับเมืองชั้นใน เป็นต้น
อีกหนึ่งกิจกรรมที่จะช่วยพัฒนาทักษะให้กับวิศวกรแห่งอนาคต คือ การแข่งขัน Battle Robot สนามประชันทักษะทางวิศวกรรม ซึ่งรวมระบบดิจิตอล แมคคานิกส์ และเทคโนโลยีระบบพลังงาน เข้าด้วยกัน โดยได้รับความร่วมมือจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ และการแข่งขันเขียนโปรแกรม Construction Cost Estimation Using BIM Contest เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงในกระบวนการออกแบบและก่อสร้างอาคาร โดยได้รับความร่วมมือจากคณะวิศวกรรม มหาวิทยาลัยศรีปทุม ซึ่งจะตัดสินรอบสุดท้ายและประกาศผลในวันงาน
นอกจากนี้ ยังมีกิจกรรม Business Matching กว่า 800 คู่เจรจานัดหมายเจรจาทางธุรกิจ ระหว่างฝ่ายจัดซื้อ ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทวิศวกรรมด้านต่างๆ บริษัทผู้รับเหมาโครงการ รวมถึงผู้ซื้อจากประเทศในกลุ่ม CLMV ด้วย ตลอด 3 วันของการจัดงานคาดผู้เข้าชมงานทั้งจากในและต่างประเทศ กว่า 30,000 คน สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท